Advertisement

Main Ad

มหัศจรรย์ของคำว่า "that" -- ศัพท์อนุบาลหมีควายที่เรียนมาตั้งแต่ ป. 1!

มหัศจรรย์ของคำว่า "that" -- ศัพท์อนุบาลหมีควายที่เรียนมาตั้งแต่ ป. 1!

อ่านหัวข้อแล้วคงไม่ปฏิเสธกันนะคะว่า "จริงว่ะ(ค่ะ)" จำได้ว่าตอนเรียนท่อง a b c เสร็จ ก็ต้องมาเรียน This That These Those เชื่อว่าทุกคนคงประสบชะตากรรมเดียวกัน สาลี่ว่าอะไรที่เราจำฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ มันก็จะจำไปจนตายเลยนะคะ เช่น สมัยก่อนสาลี่เชื่อว่า "วัวคือควายตัวเมีย เพราะมันไม่มีเขา ... 55+ อะไรอย่างนี้" แต่ตอนนี้ฉลาดขึ้นละ

ทำไมวันนี้ถึงนำคำว่า "that" มาพูด ก็เพราะว่า "that" ติดอันดับคำศัพท์ที่ใช้เยอะที่สุดในโลกนะสิคะ แล้วทราบไหมคะว่า คำว่าอะไรที่ตามสถิติแล้ว มีคนใช้กันเยอะที่สุดในโลก ... ให้คิดก่อนแล้วกัน

พร้อมรึยึงเอ่ย...(โอเค ไม่ตอบถือว่าพร้อมแล้วกัน) สาลี่จะเข้าเรื่องแล้วนะคะ ...

มหัศจรรย์ีที่ 1 ใช้ that เป็น ADJ บ่งชี้ บอกความไกลใกล้ 


แต่มหัศจรรย์คงไม่เกิดถ้าผู้อ่านไม่เข้าใจว่า ADJ (คำคุณศัพท์)นะคะ ^^" แต่ไม่ต้องงอนจนเลิกอ่านนะ แหะๆ จะบอกให้เดียวนี้ค่ะ ADJ ใช้ขยานนาย เอ้ย ขยายนาม (อ้าว เล่นกันเข้าไป) ตำแหน่ง อยู่ หน้า N หลัง Linking Verb เจ้าค่ะ อ่านเพิ่มเติมที่นี่ ถ้าคิดไม่ออก Linking V. ที่ดังที่สุดในโลก คือ V.to be ถ้ายังนึกไม่ออกอีก "ตอนเด็กๆ เราเคยท่องว่า is/am/are เป็น/อยู่/คือ"

การใช้ that แบบนี้ ใช้มาตั้งแต่อยู่ ป. 1 (คนไหนเรียนโรงเรียนวัด ก็เริ่ม ป. 5 ใช่ไหมล่ะคะ) ก็แค่เอา that มาวางไว้ หน้า Noun เพื่อชี้ว่า Noun ตัวนั้นน่ะ อยู่ตรงนั้น นู้น อยู่ตรงนู้น ...


I want to slap that woman.  แหม...ฉันล่ะอยากจะตบหล่อนคนนั้นจัง (คนนี้ไม่ตบ แต่อยากจะตบคนนั้น) 


Excuse me, can you open that window? ขอโทษนะฮะ ช่วยเปิดหน้าต่างบานนั้นให้หน่อยได้ไหม


มหัศจรรย์ีที่ 2 ใช้ that เป็น PRONOUN แทนคำนามที่กล่าวถึง


หากลืมเรื่อง Pronoun ที่สอนเมื่อวานไปแล้ว คลิกที่นี่ (ขี้เกียจเข้าไปอ่านละสิ) บอกตรงนี้ก็ได้ Pronoun ใช้แทนคำนามไปเลย ถ้ามี Pronoun แล้ว ก็ต้องไม่มีคำนามตามมาอีกแล้วนะคะ 


ก: แหวนนี้ท่านได้...แต่ใดมา
แปลทันใดกลับไปว่า Who gave you that?


ไหนตอบสาลี่ซิคะ ว่าประโยคตัวอย่างใช้ that แทนอะไร (มองหาคำนามเร็วๆ) ถะ ถะ ถั่วต้มแล้วค่ะ that นั้น แทนคำว่า that (ring) นั่นเอง 


สังเกต *** ถ้าใช้ that เป็น Pronoun ก็ไม่ต้องมีคำนามหลัง that อีกแล้วนะคะ***


มหัศจรรย์ีที่ 3 ใช้ that เป็น CONJUNCTION สันธาน (จำว่า "สะพาน") ใช้เชื่อมประโยคเท่านั้น (แต่จริงแล้วสันธานสามารถเชื่อมได้ทั้งคำ วลีและประโยคนะคะ ถ้าลืมเข้าไปอ่านได้ที่นี่


จำว่าสะพานเชื่อมมิตรภาพไทย-ลาวก็ได้ จะได้ไม่ลืมว่า "สันธานน่ะ เป็นสะพาน" ภาษาอังกฤษ ออกเสียงว่า /เคิน-จั๊ง-ชั่น/ เขียนเส้นใต้ตัวไหน ลงเสียงหนักที่พยางค์นั้นนะคะ


หมายความว่า "ข้างหน้า that ข้างหลัง" ทั้งข้างหน้า และ ข้างหลัง that (ที่เป็นสีน้ำเงินเห็นไหมคะ) ต้องเป็น "ประโยค" เท่านั้นนะจ๊ะ (สำหรับ that เท่านั้น แต่ว่า CONJ ตัวอื่นอาจใช้เชื่อม คำ หรือ วลี ที่ไม่ใช่ประโยคได้นะคะ)  


สาลี่จะยกตัวอย่างเป็นสี เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ ประโยคข้างหน้าและประโยคข้างหลัง ใช้สี น้ำเงิน  ส่วนคำว่า that ใช้สีแดง


I think that today traffic is very heavy.
I hope that she can find a job soon.



***สังเกต *** "ข้างหน้า that ข้างหลัง"  เป็นประโยค มี that เป็นสันธาน (สะพาน) คอยเชื่อมอยู่ แล้วหมายว่ายังไงวะ(คะ) ที่ว่าเป็น "ประโยค" เนี่ยะ


ใจเย็นๆ ค่ะ ประโยค ประกอบไปด้วย ประธานและกริยา ไงคะ "Subject + verb" เข้าใจแล้วนะคะ


มหัศจรรย์ีที่ 4 ใช้ that เป็น RELATIVE  PRONOUN เป็นประธาน เป็นกรรม เป็นส่วนเติมเต็มของประโยคย่อย (ประโยคย่อยคือประโยคที่ไม่ใช่ประโยคที่สื่อใจความสำคัญ มักตามหลัง who, which, that, where, when จะสอนต่อไปในบทอื่นๆ ค่ะ อย่าเพิ่งกลุ้ม)


***จำว่า "relative" แปลว่า ญาติ (ที่เราผูกพันด้วย) ดังนั้น เจ้า relative pronoun ต้องเป็น pronoun ที่ผูกพันเหมือนเป็นญาติกับคำที่อยู่ข้างหน้ามันด้วย*** 


เช่น  I like the color of lipstick that you are wearing.
ฉันชอบสีลิปสติคที่เธอทาปากอยู่จัง (wear cosmetics, wear lipstick = แต่งหน้า ทาปากนะคะ)


ตัวอย่างข้างต้นประกอบไปด้วย 2 ประโยคนะคะ แต่ that ไม่ได้เชื่อมประโยคแล้วในที่นี้ เพราะ that ทำหน้าที่ เป็น "กรรม" ของประโยคที่ 2 หรือ "you are wearing" ค่ะ เพราะ you เป็น "ประธาน" are wearing เป็น "กริยา" 


สังเกตว่า that you are wearing ขยายคำเพียงคำเดียว นั้นคือคำว่า Lipstick


แล้วก็นี่เลยค่ะ เพลงอมตะของเจ๊ Mariah Carey เพลง "HERO" (อยากฟังเพลงไปด้วย คลิกที่นี่)


There's an answer, 
If you reach into your soul
and the sorrow that you know will melt away

ตอบสิคะว่า that ตัวนี้ขยายอะไร 55+ 


that ตัวนี้ขยายคำเดียวคือคำว่า "sorrow" ไงคะ แปลว่า "แล้วความเศร้าที่คุณรู้จักก็จะมลายหายไป" อย่างนี้แหล่ะค่ะ เราเรียกว่า relative pronoun คำ pronoun ที่ผูกพันกับคำที่อยู่ข้างหน้ามัน


มหัศจรรย์ีที่ 5 ใช้ that เป็น ADVERB บอกความเข้มข้นของสิ่งที่พูด


จำได้ไหม...จำได้หรือเปล่า ว่า ADV ขยายอะไรได้บ้างคะ (ถ้าจำไม่ได้อ่านที่นี่


สรุป ADV ขยาย (1) Verb (2) Adjective (3) ADV และ (4) ประโยค


ขอยกตัวอย่างนะคะ (อย่าเพิ่งขี้เกียจอ่านนะคะ ใกล้จบแล้ว55+) 


A: How much is this watch?
B: It is only 200,000.
A: What! Come on, it is not that expensive!


เบิ่งชัดๆ เน้อ ... expensive เป็น ADJ ขยายนาม เพราะแพงบอกลักษณะของคำนามว่า มันแพง (ไม่ได้แถนะคะ แหะๆ ) "that" วางไว้หน้า ADJ เพื่อขยายว่า "เหอะน่า มันไม่แพงขนาดนั้นหรอก" พร้อมขึ้นเสียงสูงเหมือนเรยาท้ายประโยค เหอๆ  ADV ตัวนี้จึงบอกความเข้มข้นของสิ่งที่มันขยาย 


สรุป





แสดงความคิดเห็น

29 ความคิดเห็น

  1. มาแล้วๆ เม้นท์ได้แล้ว
    ชอบตรงที่พิชิตแกรมมาร์ง่ายกว่าพิชิตใจชายนี่แหละ :)

    ตอบลบ
  2. อ้าว แป๋ว เมื่อวันก่อนสาลี่พูดกับพี่บีว่า แสดงว่าไม่ชอบเนื้อหาเลย เพราะว่า "ชื่อเรื่อง" แย่งซีนไปหมด 55+
    แล้วมันตรงกับตัวหรือจ๊ะ เลยชอบน่ะ

    ตอบลบ
  3. จะแอดไปครูสักหน่อย แต่ แอดไำมได้ มันบล๊อกผมไว้ T^T อันที่จิง ผมเคยอ่านแล้วน๊าาา ครับ

    ตอบลบ
  4. ครู ช่วยยกตัวอย่างอีกสักตัวได้ไหมครับ

    ตอบลบ
  5. แอ๊ดอะไรหรือคะ ออร์ริกาโน่
    แล้วตัวอย่างที่ต้องการนี่ สงสัย that แบบไหนคะ :)

    ตอบลบ
  6. แอด facebook ครับ ว่ะฮ่าๆๆๆ that สันธานครับ

    ตอบลบ
  7. การใช้ "that" เป็นคำสันธาน (สาลี่อยากให้ทุกคนคิดถึงคำที่ออกเสียงใกล้เคียงกัน นั่นก็คือ คำว่า "สะพาน" สะพานทำหน้าที่อะไรคะ ... เก่งมาก สะพานทำหน้าที่ "เชื่อม" หรือ "โยง" สิ่งที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง เข้ากับอีกฝั่งหนึ่งค่ะ

    เช่นเดียวกันกับ "that" หากเราใช้ that เป็นสะพาน that ก็ต้องเชื่อมที่อยู่ข้างหน้า that เข้ากับสิ่งที่อยู่ข้างหลัง that ...ถึงตรงนี้ยังไม่งง นะคะ

    ถ้าประโยคที่ 1 คือ She thinks.
    ประโยคที่ 2 คือ He is handsome.

    เราก็ใช้ that มาเชื่อมระหว่างประโยคที่ 1 และประโยคที่ 2 ก็จะได้ว่า

    She thinks that he is handsome.
    เมื่อเชื่อมแล้ว He ต้องเปลี่ยนเป็นตัวเล็กนะคะ

    that เป็นตัวเชื่อมประโยค (สันธาน หรือ conjunction) ที่ทำหน้าที่เกริ่นนำประโยคที่ 2 (ซึ่งในที่นี้ ประโยคหลัก จะเป็น She thinks. หรือประโยคที่อยู่ข้างหน้า that นั่นเองค่ะ)

    หายงงหรือยังคะ ออร์ริกาโน่

    ตอบลบ
  8. ส่วน Facebook สามารถ Add FanPage ได้เลยนะคะ
    ที่ด้านขวามือของบล็อกสาลี่ จะเห็นโลโก้ >> รูปสาลี่ >> วิธีเรียนกับครูสาลี่ และ วิธีติดต่อกับครูสาลี่ สามารถกด คำว่า Facebook Fanpage ไ้ด้เลยค่ะ

    ตอบลบ
  9. อั๊ยย๊ะ ลังก๊ะ !!! เห็นแล้ว ออร่าของครูสาลี่ ในสุดที่ผมก็เห็นมันแล้วครับ ซึ้งใจ ปลื้ม ฮื่อๆๆๆ ^^ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  10. ครูครับ อีกนิดครับ that ทำหน้าที่ กรรม ครับ
    I like the color of lipstick that you are wearing. that น่าจะหมายถึง ปากหรือเปล่าครับ หรือว่าผมมัวอีก T^T

    ตอบลบ
  11. Hahahah Ok มาอธิบายกันอีกตั้งนะคะ

    That ในที่นี้ทำหน้าที่ ที่เราเรียกกันว่า "Relative Pronoun" เวลาจำให้จำว่า "relatives" แปลว่า ญาติ ส่วน pronoun เป็นคำที่ใช้แทนคำนาม

    ดังนั้น relative pronoun จึงเป็น คำที่ใช้แทนคำนาม ที่มีความใกล้ชิดกับนามที่วางอยู่ข้างหน้ามัน อย่างกับญาติแหน่ะ (อันนี้สาลี่แถ เพื่อให้ผู้อ่านจำได้ง่ายขึ้นนะคะ)

    ประโยคนี้ประกอบไปด้วย 2 ประโยคค่ะ ได้แก่
    1. I like the color of lipstick. และ
    2. You are wearing. (wearing อะไรล่ะ มันก็ wearing สีลิปติกที่พูดถึงน่ะสิ อิอิ แสดงว่า สีลิปสติกที่พูดถึงเป็น "กรรม" ของกริยา wear นะคะ ... ตรงนี้ยังเข้าใจอยู่นะ)

    เมื่อต้องการทำ 2 ประโยคนี้เป็นประโยคเดียวกัน ก็เอามารวมกันดังนี้
    I like the color of lipstick (that you are wearing).
    ประโยคนี้ ประโยคในวงเล็บ ทั้งก้อนเลย (that you are wearing) ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายของคำนามคำว่า "the color of lipstick" จ้า

    แปลว่า ฉันชอบสีลิปสติก (สีไหนหรอ สีไหน) ก็สีที่เธอกำลังทาอยู่ (ไงล่ะ)

    ขอสรุปว่า เมื่อเราใช้ relative pron. เป็นตัวขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้ามัน ตัวมันและประโยคที่ตามหลังมัน จะทำหน้าที่กลายเป็น ADJECTIVE (ขยายนาม) ทันทีค่ะ

    ส่วน relative pronoun จะมีแต่ that อย่างเดียวหรือไม่
    -- คำตอบคือไม่ค้า ถ้าคำนามข้างหน้าเป็นคน เราก็จะใช้ who ในการขยาย เช่น

    The woman is a doctor.
    The woman is standing in front of the market.

    2 ประโยคนี้ เชื่อมกันได้ว่า่
    The woman (who is standing in front of the market) is a doctor. แปลว่า ผู้หญิง (ผู้หญิงคนไหนหรอ คนไหน คนไหน อ้าว ก็)ที่กำลังยืนอยู่หน้าตลาดน่ะ เป็นหมอ

    ประโยคหลักคือ ผู้หญิงคนนั้นเป็นหมอ ส่วน "ที่กำลังยืนอยู่หน้าตลาด" เป็นคำขยาย ของคำว่า "the woman" ค่ะ

    พอเข้าใจไหมคะ

    ตอบลบ
  12. ถ้า ออร์ริกาโน่ สังเกต "that" ที่เป็นสะพาน จะแตกต่างจาก "that" ที่เป็น relative pron. นี้มาก

    ตามตัวอย่างที่สาลี่ยกให้ดูในตอนต้นสำหรับ "that" ที่เป็นสะพาน

    She thinks that he is handsome.
    คำว่า "that" ไม่ได้ขยาย thinks เหมือนกับที่ that ขยาย the color of lipstick เลยค่ะ

    ชัดเจนขึ้นไหมเอ่ย

    ตอบลบ
  13. อย่าเพิ่งรำคาญนะครับ ในส่วนที่ผมยังสงสัยอยู่นั้นมีอีกเยอะครับ ใน 2 ที่ครูอธิบายนี้ผมพอเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับครู ^^

    ตอบลบ
  14. ไม่เคยรำคาญค่ะ :)
    สบายใจได้เลยค่ะ

    ถ้าสาลี่ไม่รู้เรื่องอะไร สาลี่ก็ไม่อยากให้คนที่สาลี่ไปถาม รำคาญสาลี่เหมือนกัน

    เข้าใจความรู้สึกค่ะ มีอะไรไม่เข้าใจถามพี่ได้
    หากพี่ไม่รู้ พี่จะไปค้นคำตอบมาให้อีกทีค่ะ

    ตอบลบ
  15. ระหว่างที่ face ผมโดนบล๊อก เพิ่มเพื่อน อยู่ ขออาศัยทางนี้ถามไปก่อนนะครับ พี่ช่วย วลี ภาษาอังกฤษหน่อยได้ไหมครรับ หมายถึง วิธีสังเกตุ แบบ ว่าเราจะรู้ได้ไง ถ้าประโยคมีวลีประกอบอยู่เราจะรู้ได้ยังไงครับ

    ตอบลบ
  16. พี่ครับผมพิมพ์ประโยชน์นี้ไปไห้ฝรั่งเค้าจะงงไหมครับ
    Please tel me. How do you get coffee machine ? พี่งง ไหมครับl

    ตอบลบ
  17. ประโยคข้างบนน่าจะหมายถึง "บอกหน่อยได้ไหมครับ ว่าเครื่องชงกาแฟนี้ท่านได้จากใดมา"
    แต่ถ้าจะถามอย่างข้างบนจริงๆ สามารถใช้ได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ

    Where can I buy this coffee machine?
    Where can I find the coffee machine like this?
    ถ้าใส่ Please tell me ไว้หน้าประโยค การเรียงประโยคจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย ดังนี้ค่ะ

    Please tell me where I can buy this coffee machine. ไม่ต้องกลับกริยาช่วยไว้หน้าประธาน (เหมือนในประโยคคำถามปกติ) อีกต่อไปนะคะ

    ขอโทษนะคะ ต้องให้รอคำตอบนานมาก

    ตอบลบ
  18. เอ่อ อีกคำถามหนึ่งของออร์ริกาโน่ พี่แอบงงเล็กน้อย
    หมายความเราจะรู้ได้ยังไงหรือ ว่าในประโยคนั้นมีสำนวน (idiom) หรือ phrasal verb อะไรอยู่หรือเปล่า (อ้อ เจ้า phrasal verb นี่ เช่น look after, put up with เป็นต้นนะคะ)

    สำนวนและ phrasal verb มักจะไม่แปลตรงตัวแล้วงงค่ะ นี่เป็นวิธีสังเกตง่ายๆ ที่สุด

    ลองเข้าไปอ่านอันนี้ดูนะคะ http://krusali.blogspot.com/2011/09/idiom-vs-slang-1-roll-with-punches.html

    ตอบลบ
  19. she had return to her kitchen to take inventory of what she had that would be acceptable to a cat.
    that ในประโยคนี้ คือตัวเชื่อมหรือเปล่าครับ พี่ช่วยแปลประโยคนี้ให้ผมที่ได้ไหมครับ ผมจะดูว่าเหมือนที่ผมคิดหรือเปล่า

    ตอบลบ
  20. บอกหน่อยได้ไหมครับ ว่าเครื่องชงกาแฟนี้ท่านได้จากใดมา ถูกต้องแล้วครับ ผมจะเค้าแบบนั้นแหละครับ แต่ไม่รู้จะประกอบคำขึ้นมายังไงดี เลยเอาแบบ ความหมายตรงตัวในภาษาไทยเลย ครับ ส่วนตัวนั้น ผม อ่าน ได้บ้าง แต่แปลได้นิดหน่อย แต่จะไห้ถาม หรือประกอบคำขึ้นมา ผมกลับคิดไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่่อนดีครับ พี่มี วิธีแนะนำไหมครับ
    ใน ส่วนของประโยคที่ผมถามไปนั้น กริยาช่วย คือ get หรือเปล่าครับที่พี่หมายถึง

    ตอบลบ
  21. จากประโยคนี้
    she had returned to her kitchen to take inventory of what she had that would be acceptable to a cat.

    She = ประธานของประโยค ทำกริยา คือ had returned (กลับไป)
    กลับไปไหน ก็กลับไปยัง to her kitchen ห้องครัวของเธอ

    กลับไปห้องครัวของเธอทำไม ก็กลับไปเพื่อ to take inventory (เอาอาหาร)
    อาหารของอะไร ก็ของ of what she had อาหารของเธอที่เธอมีอยู่

    "that would be acceptable to a cat" ก้อนนี้ทั้งก้อนขยายคำว่า "inventory of what she had" ที่อยู่ข้างหน้าค่ะ
    ขยายว่าอาหารที่เธอมีอยู่ ซึ่งแมวน่าจะกินได้

    ถ้า "that" ทำหน้าที่ (1) แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้ามันคือคำว่า "inventory of what she had" อีกทั้ง (2) ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคย่อย (สังเกตง่ายๆ ว่ามีกริยาตามหลังมา ในที่นี้คือ would be acceptable

    "that" ตรงนี้ เป็น Relative Pronoun ค่ะ เป็นคำที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้ามัน เพื่อขยายความเพิ่มเติมค่ะ

    เช่น I love the book that is on the top shelf. แปลว่า ฉันชอบหนังสือเล่มนั้นจัง (เล่มไหนอ่ะ ไหน ไหน) ก็เล่มที่อยู่ชั้นบนสุดไง

    เห็นไหมคะว่า "that" ขยายคำว่า book++

    ตอบลบ
  22. "How do you get coffee machine?"

    จาำกที่ออร์ริกาโน่ถาม คำตอบคือไม่ใช่ค่ะ "get" ไม่ใช่กริยาช่วยแต่เป็นกริยาแท้ ตัดออกจากประโยคแล้วอ่านไม่เข้าใจ
    กริยาช่วยในประโยคที่ออร์ริกาโน่ถามคือ "do" ค่ะ


    ลองเข้าไปอ่านในคำกริยา ตอนที่ 1 นะจ๊ะ ตามนี้เลย http://krusali.blogspot.com/2011/10/verb-1.html

    ตอบลบ
  23. ไอย๊า !!เข้าใจผิดหมดเลยแง่ะ ผมยังไม่กระจ่าง เรื่อง that เลยแง่ะ หน้าที่ของมันเยอะแยะจริงๆๆ ครับ
    " ฉันกลับไปที่ครัวของเทอ เปิดหาอาหารอะไรที่แมว พอจะกินได้ " นี้ที่ผมเข้าใจครับ แต่ผมแยก that ไม่ออกว่ามันอยู่ในรูปแบบไหนกันแน่"that would be acceptable to a cat" <<ผมยังไม่รู้อีกด้วยว่า อันนี้คือ กลุ่มคำ ผมมัวแต่หา ประธาน กริยา และกรรม ในประโยค"that would be acceptable to a cat" ผมไม่ทราบว่า อันไหนที่เป็นประธาน กริยา คื่อ acceptable กริยาช่วยคือ would be สันธาน to กรรม คือ cat โอ้ยยยย!! เข้าใจผิดเลยเลยแง่ะ พี่ ช่วยแนะนำวิธีดูหน่อยครับ ผมเห็นพี่แยกมาเป้นกลุ่มคำให้ผมเลยมีวิธีสังเกตุไหมครับ เหมือน
    จากประโยคนี้
    she had returned to her kitchen to take inventory of what she had that would be acceptable to a cat.

    She = ประธานของประโยค ทำกริยา คือ had returned (กลับไป)
    กลับไปไหน ก็กลับไปยัง to her kitchen ห้องครัวของเธอ

    กลับไปห้องครัวของเธอทำไม ก็กลับไปเพื่อ to take inventory (เอาอาหาร)
    อาหารของอะไร ก็ของ of what she had อาหารของเธอที่เธอมีอยู่

    "that would be acceptable to a cat" ก้อนนี้ทั้งก้อนขยายคำว่า "inventory of what she had" ที่อยู่ข้างหน้าค่ะ
    ขยายว่าอาหารที่เธอมีอยู่ ซึ่งแมวน่าจะกินได้

    ถ้า "that" ทำหน้าที่ (1) แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้ามันคือคำว่า "inventory of what she had" อีกทั้ง (2) ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคย่อย (สังเกตง่ายๆ ว่ามีกริยาตามหลังมา ในที่นี้คือ would be acceptable

    "that" ตรงนี้ เป็น Relative Pronoun ค่ะ เป็นคำที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้ามัน เพื่อขยายความเพิ่มเติมค่ะ

    เช่น I love the book that is on the top shelf. แปลว่า ฉันชอบหนังสือเล่มนั้นจัง (เล่มไหนอ่ะ ไหน ไหน) ก็เล่มที่อยู่ชั้นบนสุดไง

    เห็นไหมคะว่า "that" ขยายคำว่า book++
    คำว่าขยาย ความหมาย มันคืออะไรหรอครับ ขยายที่ผมเข้าใจคือ ทำให้ชัดเจนขึ้น "I love the book that is on the top shelf " ถ้าไม่แปลให้ผมก่อน ผมจะเข้าใจประโยคนี้ว่า "ฉันชอบหนังสื่อที่ชั้นบน" แน่เลยครับ ผมยังขาดคุณสมบัติอะไรไปหรือเปล่าครับ ช่วยชี้ทางสว่างทีครับ

    ตอบลบ
  24. ผมยังไม่เข้าใจอย่างท่องแท้เลยครับ " she had returned to her kitchen to take inventory of what she had that would be acceptable to a cat " ที่ผมเข้าใจ เธอกับไปที่ครัวเปิดกล่องเพื่ออะไรที่ แมวอาจจะกินได้ " ความหมายที่ผมเข้าใจ ผมยังด้อยหรือขาดในเรื่องไหนที่ผมต้อง ศึกษาเพื่มหรือเปล่าครับ ผมเห็นพี่ ยกเป็นกลุ่มคำมาให้ผมเลยเหมือน "inventory of what she had
    " ความหมายที่ผมเข้าใจ " กล่องของเทอมีอะไร " ผมไม่รู้ว่ามันขยาย มันถูกขยายด้วย "that would be acceptable to a cat"
    ส่วน that ตอนแรกนึกว่าเข้าใจแต่เอาจริงๆ ยังแยกไม่ถูกครับ พี่ แนะนำหน่อยครับ ผมสำควรอ่านอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า

    ตอบลบ
  25. 55+ แนะนำให้โทรมาหาพี่เลยค่ะ
    พี่จะอธิบายให้ 084 769 6000 :D
    ขอหลัง 20.00 น. นะคะ

    ตอบลบ
  26. ทาง face ได้ไหมครับ พี่ช่วยแอดผมหน่อยครับ ผมแอดพี่ไม่ได้ face มัน บล๊อกผมไว้ [email protected] ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  27. เดี๋ยวพี่แอ๊ดให้ค่ะ

    แต่พี่คิดว่า ถ้าพูดคุยกันด้วยเสียงมันจะอธิบายได้ง่ายกว่ามากค่ะ
    เรื่องมันค่อนข้างยาว
    เพราะหากออร์ริกาโน่ยังงงอยู่ :D

    ตอบลบ
  28. T^T อันที่จริง อย่างที่ผมบอกครับ ผมอ่านออก( อาจจะไม่ทุกคำ ) แต่แปลได้บ้าง แต่จะไห้ประกอบคำ ขึ้นมาเองเวลาจะถามใครเนี้ย ผมยังไม่เข้าใจเลยครับ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรครับดีครับคุย ผ่าน skype ได้ไหมครับ แต่ตอนนี้ผมเรียนอยู่ ฟังเสียงพี่ได้อย่างเดียวครับ ผมพูดตอบโต้ไม่ได้

    ตอบลบ
  29. อันที่จริง ผม อ่านได้บ้าง แปลได้บ้าง แต่ ถ้าจะถามคนอื่น หรือว่า จะบอกว่าเรา ต้องการ แบบนี้ หรือจะสื่อ ความหมายให้คนเข้าใจผม ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี อย่างเช่นประโยคนี้ How do you get coffee machine?" ผมเอาภาษาไทยมาเทียบเอา เอิ๊กๆๆ พี่มี skype ไหมครับ mSN กะได้ เพราะผมนั้นเรียนอยู่ตอนนี้ อาจจะไม่พูดตอบโต้พี่ได้ แต่ ถ้า ฟังพี่พูดอ่ะได้ครับ T^T รบกวนไปไหมครับ

    ตอบลบ

ทักทาย แสดงความคิดเห็นหรือถามคำถามได้ ที่นี่ เลยค่ะ