Advertisement

Main Ad

Family Talk: Speaking English with Thai Children นำภาษาอังกฤษไปพูดคุยกับลูกๆ โครงสร้างที่ 1 ตอนที่ 1/2

Family Talk: Speaking English with Thai Children นำภาษาอังกฤษไปพูดคุยกับลูกๆ ตอนที่ 1/2 โครงสร้างที่ 1 -- "Get up! It's time for school."

หากคุณเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังคิดที่จะเริ่มสอนลูกเป็นภาษาอังกฤษ แม่สาลี่ขอแนะนำว่า คุณควรเริ่มได้เลยและไม่ต้องลังเลอีกต่อไปค่ะ เพราะยิ่งเราเริ่มเร็วเท่าไหร่ ก็จะได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น เพราะสมองของทารกนั้นมีความมหัศจรรย์มาก สมองของลูกๆ ของเราเริ่มพัฒนาตั้งแต่อยู่ในท้องของแม่ เรียกได้ว่าพัฒนากันด้วยอัตราความเร็วต่อนาทีเลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า เมื่อเด็กอายุ 2 ขวบ สมองของพวกเขากลับมีน้ำหนักประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักสมองของผู้ใหญ่เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น แม่สาลี่จึงพยายามกระตุ้นทุกคนเสมอว่า อย่านะ อย่าดูถูก การเรียนรู้และการรับรู้ทางด้านภาษาของลูกๆ ของพวกเราเป็นอันขาด และอย่าปล่อยเวลาทองเหล่านี้ให้หลุดมือไป

แม่สาลี่จะค่อยสอดแทรกความเข้าใจในการสอนลูก 2 ภาษาให้ผู้อ่านได้เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ขอเพียงทุกคนติดตามแม่สาลี่ไว้นะคะ รับรองไม่ผิดหวัง ชัวร์ 💯

เมื่อพร้อมแล้ว เรามาดูโครงสร้างประโยคแรกที่จะทำให้ทุกคนเริ่มสามารถสอนลูก ๆ กันได้เลยในวันนี้กันค่ะ 

Get up! It's time for school.

ทุกคนดูดีๆ นะคะ จากประโยคนี้ แม่สาลี่จะค่อยๆ ทำให้ทุกคนเห็นความมหัศจรรย์ในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ โดยการก็อปปี้และดึงศัพท์ที่เรามีอยู่ในคลังมาทดแทนคำศัพท์ตัวหลักในประโยคต้นแบบ ซึ่งวิธีนี้ อย่าเพิ่งดูถูกมันนา มันเป็นวิธีที่ทำให้ทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้นจริงๆ เงื่อนไขหลักก็คือ "ทุกคนต้องซ้อม ซ้อม และ ซ้อม หาคำศัพท์ขึ้นมาทดแทนให้ตัวเอง และทำมันประโยคละ 3 รอบทุกวัน" เท่านั้นเองค่ะ 

เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราก็มาเริ่มกันเลย 

ทุกคนจะสังเกตได้ว่า ส่วนแรกของประโยคต้นแบบคือ ประโยคคำสั่ง ถ้าพวกเรา ขึ้นต้นประโยคด้วยกริยาเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า พวกเรากำลังพูดประโยคคำสั่งอยู่นั่นเอง มาดูตัวอย่างกันเลยค่ะ
 ความยากของภาษาอังกฤษที่แม่สาลี่จะบอกกับนักเรียนที่มาเรียนเสมอคือ ภาษาอังกฤษนั้น จะมีคำบุพบท หรือที่เรียกว่า Prepositions มามีบทบาทสำคัญด้วย แต่คำบุพบทที่ตามติดมากับกริยานั้น มีความยากและต้องอาศัยความจำพอสมควรเลยค่ะ ดังที่ทุกๆ คนจะสังเกตได้จากตัวอย่าง ในคำว่า เปิด (turn something on) และ ปิด (turn something off) นั่นเอง คำบุพบทตัวอื่นๆ ใช้ในการระบุตำแหน่งแห่งที่ เช่น get up บุพบทคำว่า up นั้น ใช้ระบุทิศทางหรือตำแหน่งในลักษณะ "ขึ้นไปข้างบน" get up จึงแปลว่า ลุกขึ้น ตื่นขึ้น ยกร่างกายขึ้นออกจากเตียงนั่นเอง

⭐ Get up. /เก็ทฺ อัพฺ/ ตื่นตอน ลุกขึ้นจากที่นอน

⭐ Sit down. /ซิทฺ ดาวนฺ/ นั่นลง

⭐ Stand up. /สแตนดฺ อัพฺ/ ยืนขึ้น

⭐ Slow down. /สโลวฺ ดาวนฺ/ ช้าลงหน่อย

⭐ Come here. /คัม เฮียรฺ/ มานี่

⭐ Go there. /โกวฺ แฑรฺ/ ไปที่นั่น

⭐ Stop it. /สต็อพฺ อิทฺ/ หยุดเดี๋ยวนี้

⭐ Hold on. /โฮลฺดฺ ออนฺ/ หยุดสักครู่

⭐ Drink it. /ดริ้งกฺ อิทฺ/ ดื่มซะ

⭐ Clean it up. /คลีนฺ อิทฺ อัพฺ/ ทำความสะอาดซะก่อน

⭐ Turn it on. /เทิรฺน อิทฺ ออน/ เปิด(อุปกรณ์)

⭐ Turn it off. /เทิรฺน อิทฺ ออฟฺ/ ปิด (อุปกรณ์)


เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้บทความนี้ยาวเกินไป จนท่านผู้อ่านขี้เกียจอ่าน แม่สาลี่จะเขียนบทความตอนที่ 2/2 ในโครงสร้างที่ 1 ในบทความหน้า แล้วจะนำลิงก์มาแปะไว้ให้ทุกท่านนะคะ 

สำหรับประโยคคำสั่งด้านบน หากทุกคนต้องการให้น้ำเสียงนุ่มขึ้น ซอฟท์ขึ้น  ก็ทำง่าย 2 แบบด้วยกัน 

แบบที่ 1 🠊 ใส่ Please เข้าไปด้านหน้าสุด หรือ หลังสุด (นิยมมากกว่า) ของประโยค เช่น Stand up, please. Turn it off, please. Please sit down. เป็นต้น

แบบที่ 2 🠊 ใส่ Could you/Can you ...? เข้าไปด้านหน้า เช่น Could you turn it off? Can you stand up? เป็นต้น

เห็นไหมคะ ง่ายๆ แบบนี้เอง ความยากไม่ได้อยู่ที่ภาษาเลยค่ะ ภาษามีอยู่ เทคนิคมีอยู่ให้ทุกคนเรียนรู้ตลอดเวลา ความยากที่สุดของพ่อแม่คือ การละความสบายและการเสียสละเวลาส่วนตัว มาเรียนรู้และทำจริงด้วยการนำภาษาอังกฤษไปพูดกับลูกๆ มากกว่า 

แม่สาลี่หวังว่าทุกคนจะตามมาติดๆ อย่าพลาดเวลาและโอกาสสำคัญในการสอนลูกพูดภาษาอังกฤษกันนะคะ ไม่งั้น คุณจะเสียดาย...






แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น