ขอนำคำพูดของคุณ Coffeeticks มาขึ้นเป็นหัวเรื่องของเรื่องราวที่จะนำมาสอนภาษาอังกฤษกันในวันนี้นะคะ :) หวังว่าทุกคนคงเห็นด้วยกับคำพูดข้างต้นที่่ว่าตอนนี้เราไม่มีงาน (Jobs) ไม่มีความหวัง (Hope) และ ไม่มีเงิน (Cash) กันอีกแล้ว ก็แหม บางคนเล่นเอาไปซื้อมาม่ามาตุนเสียจนหมดชั้นเลยนี่คะ อิอิ อย่าคิดนะว่าสาลี่ไม่รู้ ถ้าจะตุนของก็อย่าลืมน้ำดื่ม เทียนเผื่อไฟดับ (สาลี่เตรียมเทียนเข้าพรรษาค่ะ ใหญ่ดีและตั้งได้) โทรศัพท์มือถือที่มีแบตเตอรี่พร้อม ยากันยุง อาหารแห้ง ถุงดำ (เอาไว้อุนจี้จัง -- อึ นั่นเอง)
ช่วงนี้เป็นช่วงกลางเดือน หวังว่าทุกคนคงจะอินกับคำที่สาลี่จะนำมาสอนในวันนี้ ก่อนที่จะเริ่มเรื่องขอกล่าวถึง Steve Jobs, Bob Hope และ Johnny Cash สักเล็กน้อยนะคะ เพราะไหนๆ เราก็ยืมนามสกุลของท่านทั้งสามมาเปิดเรื่องที่จะสอนกันในวันนี้ค่ะ
Steve Jobs คนนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วนะคะ :) หากอยากรู้จักเขาดีกว่านี้ รบกวนเข้าไปอ่านบทความที่สาลี่เคยเขียนไว้แล้วนะคะ คลิกที่นี่เลยค่ะ
Bob Hope เป็นนัำกแสดงและดาราตลกรุ่นคุณปู่คุณย่าน่ะค่ะ หลายๆ คนอาจไม่รู้จัก แต่โฮปเป็นดาราที่สมกับนามสกุลเขาจริงๆ คือ นอกจากการทำงานเป็นตลกและดาราแล้ว โฮปยังเป็นอีกคนหนึ่งที่ทุ่มเททำงานสังคมสงเคราะห์และยังเป็นทหารผ่านศึกรับใช้ชาติอีกด้วย โฮปเสียชีวิตเมื่ออายุ 100 ปีค่ะ (อายุยืนจัง)
Johnny Cash เป็นนักแสดง นักร้องและนักแต่งเพลงผู้มีไอเดียที่ทันสมัยล้ำหน้าคนยุคเดียวกัน และมีสไตล์การแสดงที่เป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตัวที่จะแต่งเป็น "Man in Black" ตลอดค่ะ เพลงของแคชเป็นเพลงคันทรี่ แต่มีสไตล์ Rock & Roll อยู่ด้วย แคชเสียชีวิตไปแล้วค่ะเมื่ออายุ 71 ปี หากต้องการฟังเพลงของ Johnny Cash เพื่อรำลึกถึงเขา คลิกที่นี่ค่ะ
ส่วนคำถามว่า "ทำไม" สาลี่ถึงคิดว่าทุกคนคงจะอินกับเรื่องที่สาลี่นำมาเขียนในวันนี้ ก็เพราะว่าเคยมีคนกล่าวไว้ว่า "เงินเดือน -- ก็เหมือนประจำเดือนผู้หญิง ที่มีอยู่เพียง 3-4 วัน ก็หมด" อย่าหาว่าสาลี่ทะลึ่งเลยนะคะ ถือซะว่ามาเล่าเรื่องให้ทุกคนสนุกสนานกันก็แล้วกันค่ะ
สำหรับคำว่า "ทำไม" ภาษาอังกฤษมีคำที่แปลว่า ทำไม 2 คำค่ะ คำแรกเป็นศัพท์อนุบาลหมีควาย คือ Why /วาย/ แปลว่า "ทำไม"
เช่น ในเพลงนี้ค่ะ The End of the World กดที่นี่เพื่อฟังเพลงกันเลยค่ะ
"Why does the sun go on shining? Why does the sea rush to shore? Don't they know it's the end of the world 'cause you don't love me anymore."ส่วนคำที่สองก็คือคำว่า "How come" ไม่ได้ถามว่า "มายังไง" นะคะ แต่มันแปลว่า "ทำไมอ่ะ" ต่างหาก ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้นะคะ ลองถามเพื่อนๆ ว่า How come แทนคำว่า why กันบ้าง แล้วดูซิว่าเพื่อนๆ ของทุกคนจะงง หรือ blank /แบล็งค์/ กันหรือเปล่า
ทำไมดวงอาทิตย์จึงยังทอแสงอยู่ ทำไมทะเลยังพัดพาคลื่นเข้าหาฝั่ง พวกมันไม่รู้หรอกหรือว่า โลกนี้กำลังจะจบสิ้นลง เพราะว่าคุณไม่ได้รักฉันอีกต่อไปแล้ว
55+ ส่วนคำว่า "ประจำเดือน" นั้น มันไม่ใช่ monthly นะคะ เอิ๊กๆ monthly แปลว่า "ประจำเดือน" เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ในบริบทนี้ค้า
How much do you earn monthly? แปลว่า เดือนๆ นึง เธอหาเงินมาได้เท่าไรเหรอ
แต่ประจำเดือนของผู้หญิงนี่ เราเรียกกันว่า "menstruation" อ่านว่า /เม็น-สตรู-เอ้-เชิ่น/ บางคนอาจจะบอกว่าโอ้มายก็อด ... ยาวจัง แห่ะ ๆ เห็นด้วยค่ะ ก็เลยจะเสนอคำที่ง่ายกว่า เรียกง่ายๆ ว่า period /พี้-เรียท/ ที่แปลว่า ประจำเดือนก็ได้ หรือ จุด (.) ก็ได้ค่ะ ส่วนเวลาปวดท้องประจำเดือน เราเรียกว่า dysmenorrhea ยาวจังนะคะ จำคำนี้แล้วกันค่ะ period cramps /พี้-เรียท-แคร้มป์ส/ แปลว่าอาการปวดท้องเมนส์ค่ะ เช่น I suffer with severe period cramps. เนี่ยะ ... ปวดท้องเมนส์อย่างแรง
เอาละค่ะ มาเข้าสิ่งที่จะมาสอนกันวันนี้เถอะ อิอิ ร่ายเสียยาวเลย
เมื่อเราต้องการจะบอกว่า "ไม่มีเงิน" เราจะบอกว่าอย่างไรดีเอ่ย
ทราบกันหรือไม่คะว่า "สีเขียว" นอกจากจะเป็นสีของธรรมชาติแล้ว สำหรับวัฒนธรรมตะวันตก "สีเขียว" ยังเป็นสัญลักษณ์ของ "เงิน" และ "ความอิจฉาตาร้อน" อีกด้วยค่ะ เหมือนเพลงนี้เลยค่ะ "Love is blue"
Red, red my eyes are red
Crying for you
Alone in my bed
Green, green, my jealous heart
I doubted you but now we're apart
ส่วนคำว่า "ไม่มีเงิน" เราสามารถใช้คำได้ดังนี้ค่ะ
1. "no money" ไม่มีเงินเลยจริงๆ Dude, I must confess that I have no money. เพื่อนเอ๋ย ขอสารภาพตามตรงว่ะ ว่าไม่มีเงิน
2. "broke" /โบร้ค/ แปลว่า ถังแตก I am so sorry that I cannot lend you money because now I am totally broke. ขอโทษนะที่ให้ยืมเงินไม่ได้ เพราะตอนนี้ถังแตกจริงๆ
3. "out of cash" /เอ้าท์-เอิฟ-แคช/ ก็แปลว่าไม่มีตังค์ค่ะ Peter is out of cash right now. So he must have instant noodle every day. ปีเตอร์เงินหมดแล้ว เลยต้องกินมาม่าุทุกวันเลย
4. "completely spent" /เคิม-พลี้ท-ลิ่-สเป้นท์/ หมดตูดแล้วจ้า
5. "no shirt on my back" อันนี้เป็นสำนวนแปลว่า "ไม่มีเงินเหมือนกันค่ะ" สามารถพูดลอยๆ ออกมาก็เข้าใจได้นะคะ
6. "not a penny on my name" อันนี้ก็เป็นสำนวนค่ะ เหมือนกับตอนเขียนเช็ค แล้วต้องใส่ชื่อ และก็ใส่จำนวนเงิน แต่นี่หมายความ ไม่มีใครเขียนเช็คในชื่อเราเลยสักบาทเดียวค่ะ ก็เลยแปลว่า "ไม่มีเงิน" คำนี้พูดออกมาลอยๆ เลยฝรั่งก็เข้าใจค่ะ
7. "penniless" เป็น adjective ค่ะ แปลว่า ไม่มีเงินสักบาท
จะใช้ตัวไหน ก็เลือกใช้กันได้เลยนะคะ ^^
เพลงนี้สาลี่ชอบ เฉยๆ ลองฟังกันดูนะคะ
(ถือว่าฝึกทักษะการฟังแล้วกันค่ะ)
1 ความคิดเห็น
ความบังเอิญก็คือว่า ผู้ที่ร้องเพลง "500miles" เวอร์ชั่นที่สาลี่เอามาแปะไว้ข้างบน
ตอบลบเป็นลูกสาวของ Johnny Cash ค่ะ โอ้โห....
ทักทาย แสดงความคิดเห็นหรือถามคำถามได้ ที่นี่ เลยค่ะ