Advertisement

Main Ad

Steve Jobs บุคคลที่เป็นดังหนึ่งแรงบันดาลใจ...บล็อกวันนี้เขียนอุทิศให้คุณ

Steve Jobs บุคคลที่เป็นดังหนึ่งแรงบันดาลใจ...บล็อกวันนี้เขียนอุทิศให้คุณ

เช้าวันนี้สาลี่เพิ่งทราบข่าวว่า Steve Jobs อดีต CEO (Chief Executive Officer เวลาแปลให้แปลว่า "ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร" นะคะ) ของ Apple เสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 56 ปี ด้วยโรคมะเร็งตับ 

ขอสอดแทรกการสอนภาษาอังกฤษไปด้วยนะคะ ศัพท์คำว่า "ตาย" นั้น ในภาษาอังกฤษ ศัพท์อนุบาลหมีควายที่สุด ก็ืคือ คำว่า "die" ที่เป็นกริยา (verb) อ้อ...คำว่า "dead" ไม่ใช่กริยานะคะ แต่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) หมายความว่า "คำที่เป็นกริยาตามหลังประธานได้เลย ใครตายก็ใส่กริยาเข้าไปข้างหลัง" แต่ถ้าเป็น Adjective เรามีตำแหน่งในการวาง Adjective อยู่ว่า "หน้า Noun หลัง Be" Be ในที่นี้คือ Verb to be (is, am, are, was, were, been) นะคะ (หากไม่เข้าใจเข้าไปอ่านหน้าที่ของคำหรือ Part of Speech กันก่อน คลิกที่นี่

ดังนั้น เราจึงมีทางเลือก 2 ทาง นั่นก็คือ (1) ใช้ die (2) ใช้ dead ซึ่งสามารถวางตำแหน่งให้ถูกต้องตามที่สาลี่สอนไปในย่อหน้าก่อนได้ดังนี้ค่ะ

(1)  Steve Jobs died this morning. สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตเช้านี้ (die =V1 กริยาช่อง 1, died = V2 กริยาช่อง 2 ใช้กับอดีต -- ตรงนี้อย่าเพิ่งงงค่ะ สาลี่จะสอน Tense ในอนาคตแน่) ในเมื่อ die เป็นกริยา ก็ใส่หลังประธาน ซึ่งก็คือคนที่ทำกริยาตาย ในที่นี้ก็คือ Steve Jobs ไ้ด้เลย 

(2)  Steve jobs was dead this morning. สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตเช้านี้ สังเกตนะคะว่า คำว่า dead เป็น Adjective หรือคำคุณศัพท์ มีหน้าที่ขยายคำนาม ตำแหน่งของ Adjective คือ "หน้า Noun หลัง Be" Be ในที่นี้คือ Verb to be (is, am, are, was, were, been) ดังนั้น จึงต้องวาง dead ไว้หลัง Verb to be คำว่า was (V2 กริยาช่อง 2 = อดีต) นั่นเอง 

แบบนี้ผิดค่ะ --> Steve Jobs dead this morning. 

แต่ Steve Jobs เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ การที่จะบอกว่าใครตายเพราะอะไร ให้ใช้คำว่า "die of/from + สิ่งที่ทำให้ตาย" นะคะ อย่างเช่นในกรณีนี้ คือ Steve Jobs died of illness. สตีฟ จ็อบส์เสียชีิวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ หรือ Steve Jobs died from pancreatic cancer. สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ตับอ่อน




สาลี่เริ่มรู้จักความเป็น Steve Jobs มิใช่จากเทคโนโลยีของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad iPod เหมือนที่เพื่อนๆ หลายคนอาจรู้จักกัน แต่สาลี่เริ่มรู้จัก Steve Jobs และเริ่มให้ความนับถือเขามาตลอดจากประสบการณ์หนึ่งในชีวิต นั่นก็คือ การเข้าเรียนคอร์สล่ามกับสมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทยเมื่อปี 2553 (อ่านรายละเอียดข้อมูลสมาคม คลิกที่นี่) กับการฝึกทำล่ามพร้อม โดยอาศัยสุนทรพจน์บทหนึ่งที่ Steve Jobs ขึ้นกล่าวในงานรับปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด วันนี้เลยอดไม่ได้ค่ะ ที่จะนำสุนทรพจน์บทนี้มาให้ทุกๆ คนได้ฟังกัน (แต่ขอออกตัวไว้ก่อนว่า สาลี่นำลิ้งก์นี้มาจาก Youtube.com ซึ่งคาดว่า Sub-title ภาษาไทยคงเป็นฝีมือการแปลของผู้ลงคลิป ซึ่งก็คือคุณ jicktui นะคะ)

You've got to find what you love 

คุณต้องค้นหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ




สำหรับสคริปท์ภาษาอังกฤษ อ่านกันได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดค่ะ คลิกที่นี่ Steve เป็นคนพูดชัดเจนและมีจังหวะจะโคน ที่สำคัญมีอารมณ์ร่วมในสิ่งที่ตัวเองพูดอย่างที่สุด เพราะฉะนั้น สุนทรพจน์ในครั้งนี้จึงเป็นตัวอย่างการฝึกฟังที่ดีสุดยอดเลยค่ะ สาลี่แนะนำ 5 ดาวเลย และนอกจากจะได้ฝึกการฟังแล้ว สาระหรือสารที่ Steve ต้องการสื่อนั้น ก็ล้วนแต่น่าประทับใจและเป็นแรงบันดาลที่ดีอย่างยิ่ง หลายคนรวมทั้งตัวสาลี่เองได้นำข้อความคมๆ จากวาทะในครั้งนี้มาเป็นแรงผลักดันในการดำเนินชีวิตต่อไปอีกด้วย (ของดีๆ อย่างนี้ ห้ามพลาดนะคะ) สำหรับโหลดลงมือถือเอาไว้ฟังเวลาไปไหนมาไหน โหลดที่นี่ค่ะ (ไฟล์ MP4 นะคะ)

"No one wants to die. Even people who want to go to heaven don't want to die to get there. And yet death is the destination we all share. No one has ever escaped it. And that is as it should be, because Death is very likely the single best invention of Life. It is Life's change agent. It clears out the old to make way for the new."
"ไม่มีใครต้องการตาย แม้คนที่อยากขึ้นสวรรค์ก็ไม่ได้อยากตายเพื่อที่จะได้ขึ้นสวรรค์ แต่กระนั้น ความตายคือปลายทางที่ทุกคนล้วนต้องเจอ ไม่มีใครหนีพ้นมันไปได้ และนั่นคือสิ่งที่ดำเนินไปตามครรลองของมัน เนื่องด้วย ความตายเป็นนวัตกรรมเดียวที่เยี่ยมยอดที่สุด ความตายคือผู้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงแห่งชีวิต ซึ่งได้ถางทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทดแทนคนรุ่นเก่า"
หมายเหตุ: สาลี่แปลโดยพยายามให้เป็นภาษาไทยมากที่สุด โดยไม่ได้ยึดโครงสร้างตามต้นฉบับ 100 เปอร์เซ็นต์นะคะ แต่ยึดความหมายตามต้นฉบับ 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ

Steve ปิดท้ายสุนทรพจน์ของตัวเองด้วยคำว่า "Stay hungry, stay foolish.
ซึ่งสาลี่ขอแปลว่า "จงกระหายใคร่รู้และมีชีิวิตอยู่อย่างน้ำไม่เต็มแก้ว

ขอปิดท้ายบทความวันนี้ ด้วยคำศัพท์คำว่าตาย ที่ไม่ "อนุบาลหมีควาย" เหมือนคำว่า die ในตอนต้นนะคะ (อ่านแล้ว ท่องไม่ได้ อาจจะ "บ้าตาย" ก็ได้ T_T สู้ๆ)

นอกจากคำว่า die แล้ว เรายังมีกริยาและสำนวนตัวอื่นที่แปลว่าตายอีกมากมายค่ะ
 เช่น

pass away
be gone 
เวลาใช้ให้ผัน be ตามประธานด้วยนะคะ (is, am, are, was, were)
lose (his) life
depart (his) life
meet (his) end/death
go to (his) last resting place
breathe (his) last
คำว่า his เปลี่ยนเป็น Pronoun ตัวอื่นๆ (her, their เป็นต้น) 
ได้ตามความหมายค่ะ อ่านเพิ่ม คลิกที่นี่
run down the curtain 
(ประมาณว่าจบฉากละครชีวิต ปิดม่านแล้ว)
kick the bucket

สุดท้ายของวันนี้ (สุดท้ายจริงแล้วค่ะ)

The dead they sleep a long, long sleep;
The dead they rest, and their rest is deep;
The dead have peace, but the living weep. 
~Samuel Hoffenstein


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น