เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ (แต่หัวใจไม่ว้าวุ่นนะคะ อิอิ) สนามสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติจึงผู้คนล้นหลามมาก ดังนั้น ขอแนะนำให้ทุกคนเดินทางไปตั้งแต่เช้ามืด (ล้อเล่น) สาลี่เดินไปถึงสนามสอบเวลา 07.25 น. สาลี่ได้คิวที่ 115 (บระเจ้า) นั่งรอตั้งแต่สาวยันแก่ทีเดียวค่ะ
เมื่อครั้งที่เดินทางไปถึงสนามสอบ ให้ทุกคนนำบัตรนัดไปเสียบเพื่อจองคิวก่อนนะคะ คิวเราจะได้ประมาณคิวที่เท่าไหร่ก็อยู่ที่ว่าคนที่เสียบบัตรคิวก่อนหน้าเรามีเยอะหรือไม่ เวลาประมาณ 08.00 น. ทุกคนต้องยืนเคารพธงชาติกันอย่างพร้อมเพรียง เราควรจะยืนตรงเคารพธงชาติไปกับผองเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมกับเรานะคะ
หลังจากเคารพธงชาติเสร็จ อีกสักพักเจ้าหน้าที่ในห้องกระจกจะเรียกชื่อตามบัตรนัดที่เราไปเสียบ (สังเกตง่ายๆ ถ้าใครเสียบบัตรนัดแผ่นใหญ่ครึ่ง A4 บัตรนั้นเป็นบัตรสอบซ่อม ส่วนใครเสียบบัตรแผ่นเล็กกว่าหน่อยประมาณ1/6 ของกระดาษ A4 บัตรนั้นเป็นบัตรของผู้เดินทางมาสอบเป็นครั้งแรกค่ะ)
ตอนเรียกชื่อไม่ต้องตกใจ เพราะเสียงเจ้าหน้าที่จะเบาที่สุด ราวกับทดสอบทักษะและสมรรถนะของหูเราอย่างไรอย่างนั้นค่ะ แต่ถ้าเราไม่ได้ยินจริงๆ ก็ไม่ต้องตกใจอะไรไป เพราะคิวเราจะไม่โดนแซงค่ะ เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้ให้ (แต่รอนานมาก เพราะต้องรอจนเขาเรียกชื่อกันจนจบ ซึ่งกินเวลาประมาณชั่วโมงนึงแหน่ะ) พวกที่มารับบัตรคิวจะมีทั้งบัตรคิวสีชมพู (รถยนต์) และบัตรคิวสีฟ้า (จักรยานยนต์) พวกที่มาสอบจักรยานยนต์จะได้สอบก่อนนะคะ ส่วนรถยนต์ต้องรอหลังจากสอบจักรยานยนต์จบ
ก่อนที่จะเริ่มสอบเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้สอบทุกคนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รถยนต์และจักรยานยนต์ ลงไปในสนามสอบ เพื่ออธิบายข้อควรระวังและสิ่งที่ต้องทำในเวลาสอบ (เวลานี้ผู้ที่ไม่เคยไปสอบ ต้องฟังให้ดี (ห้ามใจลอยไปมองหนุ่มมองสาวแถวนั้นเ็ด็ดขาด เข้าใจไหม?)) เจ้าหน้าที่จะอธิบายพร้อมมีการแสดงตัวอย่างท่าสอบ 3 ท่า (สำหรับรถยนต์เท่านั้น มอเตอร์ไซค์ตัวใครตัวมันค้า) ได้แก่ (1) ถอยหลัง 7 เกียร์ (2) เทียบฟุตบาท อย่าอุบาตว์จอดห่างเกิน 25 ซม. เด็ดขาด และ (3) ท่าเดินหน้าตรงและถอยหลังตรง (จะอธิบายละเอียดอีกครั้งด้านล่างค่ะ)
หลังจากการแสดงตัวอย่าง ให้ผู้ที่ไม่มีรถมาเอง เ้ข้าคิวซื้อคูปองรถเช่าของทางสนามได้ ในราคา 100 บาทถ้วน ที่ป้อมเจ้าหน้าที่ในสนาม (ก่อนเริ่มการสอบนะคะ สาลี่ก็ไปเช่ารถที่สนามเอาเช่นกัน รถเป็นรถยี่ห้อ Honda City ระบุด้วยว่าเราต้องการรถเกียร์ออร์โต้ หรือ เกียร์กระปุก นะคะ "ห้ามลืม")
จากนั้นเราจะได้ 2 สิ่งติดตัวเราก่อนสอบที่เราต้องนำไปสอบปฏิบัติด้วย ได้แก่ (1) บัตรคิวสีชมพู (ห้ามหายเด็ดขาด) (2) คูปองรถเช่าที่เราเพิ่งไปซื้อมา (ถ้าหายก็เสียอีก 100 นึงนะจ๊ะ)
อย่าเพิ่งเบื่อ...เพราะที่อธิบายมานี่สาลี่อธิบายแบบละเอียดสุดๆ (จากประสบการณ์ทั้งของน้องสาวสาลี่ที่ไปสอบมาก่อน และจากวันนี้ที่สาลี่ไปลุยมาเอง 555+)
โอเค...กลับมานั่งรอคิว (นานมาก...แต่รับรองไม่เบื่อ เพราะจะตื่นเต้น กลัวและเครียดแทน มันส์) การสอบจะเริ่มที่รถจักรยานยนต์ก่อนนะคะ ซึ่งจะใช้เวลาแป๊ปเดียวเท่านั้น เพราะมันไม่มีเวลามาให้คิดมากเหมือนสอบรถยนต์ อ้อ ... เวลาเจ้าหน้าที่เรียกคิว จะเรียกเป็นช่วง ช่วงละ 30 คิว ผู้ที่เตรียมรถยนต์ไปเอง ก็ไปนำรถของตัวเองมาเข้าคิว โดยไม่ต้องเรียงคิวตามบัตร แต่อยู่ในช่วงที่เจ้าหน้าที่เรียกก็พอค่ะ สำหรับรถเช่า ฟังให้ดี เจ้าหน้าที่จะเรียกเราเองค่ะ ไม่ต้องตกใจ จะมีเจ้าหน้าที่ถอยรถมาตั้งลำให้เรา เราแค่ขับออกไปเท่านั้นเองค่ะ
มามะ...มาถึงรายละเอียด และขั้นตอนการสอบกันแล้วระวัง *** เมื่อขึ้นไปบนรถ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถสนามที่เราเช่ามาเพื่อสอบ) อย่าเพิ่งออกรถหรือทำอะไรทั้งสิ้นให้ (1) ปรับเก้าอี้ให้เหมาะกับเราที่สุด ของสาลี่ต้องปรับให้ใกล้พวงมาลัยและสูงที่สุด T_T เพราะสาลี่ตัวเล็ก (2) ปรับกระจก ในรถจะมีปุ่มปรับกระจกซ้ายขวาอัตโนมัติ ให้ถามเจ้าหน้าที่ก่อนเลย ว่าปรับยังไง เพราะมีประโยชน์มากตอนที่สอบท่าที่ 2 ท่าเทียบฟุตบาท อย่าจอดอุบาตว์เกิน 25 ซม. นะคะ + อย่าลืมกระจกกลางรถมีประโยชน์ในท่าที่ 1 (ถอยหลัง 7 เกียร์) และ ท่าที่ 3 เดินหน้าตรงและถอยหลังตรง (3) คาดเข็มขัด เปิดหน้าต่างด้านซ้าย (หน้าต่างด้านนี้ห้ามปิดเด็ดขาด เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะบอกก่อนสอบค่ะ) เราจะออกรถช้า หรือ เร็ว ก็ได้ ไม่มีใครมากดดันค่ะ เราอย่ากดดันตัวเองแล้วกัน (ห้ามอาย) "พร้อมแล้วจึงออกรถเท่านั้นนะคะ"
มา...ลุยกันเถอะค่ะ
อุปกรณ์ในวันนี้ ที่จะมาอธิบายกับเพื่อนๆ ได้แก่
สนามที่สาลี่ไปสอบ คือ "สนามสอบกรุงเทพฯ 2 เขตตลิ่งชัน" (อยู่ในซอยสวนผักนะคะ)
โปรดใช้ "คันเร่ง" ให้น้อยที่สุด เน้นไปช้าๆ ด้วยการเหยียบและปล่อย "เบรค" แทนนะคะท่าที่ 1: "ท่าถอยหลัง 7 เกียร์" ซึ่งถือเป็นท่าปราบเซียนที่ยากที่สุด มีดังนี้ค่ะ
กรุณาดูพระเอกในวันนี้ของเรา "รถสีน้ำเงิน" นะคะ แก้วน้ำสีเขียวใสๆ คือ "ป้อมเจ้าหน้าที่" ค่ะ1. จากที่จอดเข้าคิว (หรือจากรถเช่าที่ทางเจ้าหน้าที่ตั้งลำให้)
2. เข้าเกียร์เดินหน้าขึ้นมาตรงๆ และมาหยุดอยู่ที่หน้าเครื่องหมาย P (Park -- ไม่ใช่สวนสาธารณะนะคะ อิอิ กรณีนี้เป็นกริยา แปลว่า "จอด") การเดินหน้าเจ้ามาจอดตรงนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ถามว่า "เบอร์อะไร (ตามบัตรคิว)" เราก็ตะโกนบอกกลับไปด้วยเสียงอันไพเราะเป็นมิตรนะคะ หลังจากนั้นก็ทำใจเตรียมพร้อม
3. ดูกันอีกทีชัดๆ ค่ะ (ด้านหน้ารถมีป้ายตัว P อยู่ ป้ายจราจรไม่ใช่แบบนี้แต่สาลี่มีปัญญาทำได้แค่นี้ 555+ อย่าว่ากันนะคะ) เมื่อเราจอดรายงานตัวเจ้าหน้าที่แบบนี้ เจ้าหน้าที่จะเริ่มนับ 1/7 เกียร์แล้วนะคะ (เกียร์ที่ 1 แล้วน้า)
4. เทคนิคจะบรรยายนับจากนี้ค่ะ ต่อมา ให้เราเข้าเกียร์ถอยหลัง เป็นเกียร์ที่ 2/7 สังเกตลูกศร ลูกศรชี้ไปที่ไม้จิ้มฟัน (ซึ่งในกรณีนี้คือ เสาที่เสียบไว้กับหลัง ให้ดูที่เสาหรือไม้จิ้มฟันเป็นหลักนะคะ อย่าไปดูที่ดินน้ำมันล่ะ) ให้เราค่อยๆ ถอยหลังมาช้าๆ จนล้อหลังอยู่ประมาณเสาแรกดังกล่าว (ช็อตนี้ต้องหันศรีษะไปมองค่ะ กระจกข้างไม่ช่วยอะไรนะคะ)
*** เมื่อได้ตำแหน่งตามลูกศรแดง ให้ "หยุด" (เหยียบเบรค)
5. หมุนพวงมาลัยซ้ายสุด (เพราะเราต้องการให้รถเข้าไปทางซ้าย) เสร็จแล้วจึงปล่อยเบรค เพื่อให้รถค่อยๆ ถอยเข้าไป จังหวะนี้ให้มองหน้ารถด้านซ้ายมือ ดูว่าพ้นเสาแรกที่เราเล็งไว้ในข้อ 4 หรือไม่ ถ้าพ้นแล้วให้หันมาดูกระจกขวา ค่อยๆ ถอยจนกระทั่งล้อหลัง (ดูลูกศรสีขาว) เหยียบเส้นสีแดง
เส้นสีแดง เป็นกรอบที่เราต้องนำรถเราเข้าไปอยู่ให้ได้ "ล้อจะทับเส้นไม่ได้เป็นอันขาด" นะคะ ต้องจอดให้เข้าไปอยู่ในกรอบพอดีเด๊ะ6. เมื่อล้อเหยียบเส้นสีแดงแล้ว เหยียบ "เบรค" เพื่อหยุด (เอาให้ชัวร์นะคะ) จากนั้นให้เราหมุนพวงมาลัยขวาสุด เพื่อให้ตูดรถไปทางด้านขวา ค่อยๆ ถอย มองดูกระจกซ้ายตลอดเพื่อให้ท้ายไม่ชนเสาด้านซ้ายนะคะ จากนั้นถอยให้เข้าที่ อย่าให้ด้านหน้ารถล้ำเกินเส้นสีแดง "อย่าลืม คืนพวงมาลัยให้ล้อตรงด้วย" ถ้าทำตามนี้จะสามารถทำท่าแรกนี้ให้สำเร็จได้ภายใน 2 เกียร์ (จาก 7 เกียร์ค่ะ) เมื่อมั่นใจแล้ว เปิดกระจกขวา (ห้ามเปิดประตู หรือชะโงกหน้าออกมาจากรถเด็ดขาด) ยื่นมือขวาออกไปแล้ว ยกมือขวาขึ้นสูงๆ ชูไว้อย่างนั้นนะคะะ จนกว่าเจ้าหน้าที่จะหันมามอง แล้วส่งสัญญาณให้ไปได้ (ด้วยการโบกมือค่ะ)
7. ค่อยเลี้ยวรถออก (ห้ามชนเสาไหนทั้งสิ้น) เพื่อเตรียมตัวสอบท่าต่อไป
*รูปแบบที่ "พลาดหรือตกท่าแรก" เป็นแบบนี้ค่ะ
ถอยตื้นเกินไป ล้อไม่เหยียบเส้น
ผลที่ได้คือ รถไม่อยู่เส้นสีแดงที่ตีกรอบเอาไว้
ไม่ต้องตกใจค่ะ ยังมีอีก 4 เกียร์ที่ใช้ได้ ค่อยๆ แก้กันไป
ท่าที่ 2: เทียบฟุตบาต อย่าอุบาตว์เกิน 25 ซม.
1. ค่อยๆ ถอยออกมาตั้งลำ เพื่อตีโค้งไปเทียบฟุตบาท "พยายามให้ช้าที่สุด โดยล้อรถ ต้องไม่หยุดหมุน"
ตรงนี้แหล่ะค่ะ ที่การปรับกระจกด้านซ้ายมือของรถจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ สาลี่ถึงบอกว่าเราต้องเรียนรู้วิธีปรับกระจกไว้ในตอนแรก ปรับกระจกด้านซ้ายให้มีลักษณะกดลงเล็กน้อยให้พอเห็นฟุตบาท
2. ค่อยๆ ตีวงไปทางซ้ายช้าๆ หมุนพวงมาลัยซ้ายต่อไปอีกเรื่อยๆ มองกระจกซ้ายให้ใกล้ฟุตบาทมากที่สุด ล้อต้องทับเส้นสีแดงหรือล้ำเกินเส้นสีแดงเข้าไปใกล้ฟุตบาทที่สุด (หรือห่างฟุตบาทได้ไม่เกิน 25 ซม. เจ้าหน้าที่วัดแล้วตีเส้นไว้ให้ค่ะ ในสนามเส้นสีแดงที่ลูกศรชี้ จะเป็น "สีเหลือง" นะคะ) หากจอดนอกเส้นสีแดงนี้ "ตก"
3. อีกเทคนิคนึงคือค่อยเลี้ยวซ้ายจนรู้สึกว่าล้อรถกระทบฟุตบาทนิดๆ แล้วจึงค่อยคืนพวงมาลัย เมื่อคืนพวงมาลัยตรงแล้ว เดินหน้าช้าๆ ไปจอดยังป้ายตัวพีที่อยู่ด้านหน้า ดังรูป
4. รอสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ก่อนค่ะ ระหว่างรอ "จุดนี้ถ้าปรับกระจกด้านซ้ายต่ำไปเพื่อมองฟุตบาท ท่าต่อไปต้องรีบปรับกระจกด้านซ้ายให้เป็นปกติทันที มิเช่นนั้น ท่าที่ 3 มีปัญหาแน่นอนค่ะ กระจกในรถต้องมองหลังได้อย่างชัดเจนด้วยนะคะ ถ้าไม่ชัดเจนปรับด่วน ณ จังหวะนี้" เสร็จแล้ววนรถไปตามถนน เพื่อทำท่าที่ 3 (ดูคันที่ลูกศรขาวชี้)
ท่าที่ 3: เดินหน้าตรงและถอยหลังตรง
1. ท่านี้จะยากตรงที่ เราต้องเลี้ยวขวาก่อนเข้าสู่ท่าที่ 3 (สังเกตตามรูปนะคะ) และขับไปข้างหน้าให้ตรงโดยไม่ชนเสาซ้ายขวา เทคนิคอยู่ที่ว่า เราคืนพวงมาลัยให้ล้อตรงได้เร็วหรือไม่ ทุกคนทำได้แน่นอน หากค่อยๆ ไหลไปช้าๆ เน้น ช้าๆ แต่ล้อห้ามหยุดหมุน
2. จับพวงมาลัยให้ดีอย่าให้รถเีอียงไปโดนเสาต้นไหนทั้งสิ้น ค่อยเดินหน้ามาเรื่อยๆ จนท้ายรถพ้นเสาต้นแรก (ดูลูกศรสีขาว)
***สังเกต รถสีแดงที่เตรียมจะสอบท่าที่2 ต้อง "หยุด" เพื่อแสดงน้ำใจให้รถที่เขาจะถอยหลัง (กำลังทำท่าที่ 3) แล่นออกมาให้ตูดเลยเสาเสียก่อนนะคะ ไม่งั้นรถที่ทำท่าที่ 3 อยู่ตกนะ"
3. จากนั้นยกมือขึ้นบอกเจ้าหน้าที่ ก่อนค่อยๆ ถอยหลัง (จังหวะนี้กระจกทั้ง 3 ซ้าย ขวา และในรถ จะมีประโยชน์สุดๆ ใน 3 โลก) ให้ตรงโดยไม่ชนเสาต้นไหน หากขับช้า ถ้าตูดรถเอียงจะไปชนเสาด้านซ้ายของตัวรถ วิธีแก้ก็ให้หมุนพวกมาลัยไปทางขวาเล็กน้อย (เพื่อสร้างสมดุลย์ ให้ตูดรถไปทางด้านขวา) จากนั้นถอยให้พ้นเสาต้นสุดท้ายไปไกลๆ เลยค่ะ
4. จากนั้น "ปรบมือให้ตัวเองในใจ 1 ที" แล้วเตรียมฉลองได้เลย ค่อยเลี้ยวซ้ายออกไปจากสนาม ตามถนนเลยค่ะ
5. เย้ "เสร็จแล้วเว้ย" จากนั้นจอดรถให้ดี แล้วเดินลงไปหาเจ้าหน้าที่ที่ป้อม "ในรูปคือแก้วสีเีขียวใสๆ นะคะ"
555+ หวังว่าที่สาลี่อธิบายมานี้
คงเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างตามสมควรนะคะ
ขอจบแบบดื้อๆ ไ้ว้ ณ โอกาสนี้
(ต้องขอขอบคุณน้องพลอยน้องสาวสาลี่ด้วยที่สละเวลามาช่วยทำสนามและรูปค่ะ อิอิ + บวกกับที่ลางานเดินทางไปเป็นกำลังใจให้สาลี่ด้วยนะคะ)
สู้ๆ สาลี่ทำได้ ทุกคนก็ต้องทำได้ค้า
4 ความคิดเห็น
โอ้โหละเอียดยิบเลยนะครับ นึกตามเห็นภาพชัดเจนเลย
ตอบลบเสียดายตอนพาลูกไปสอบ(สนามเดียวกันเลย)ไม่ทันครูสาลี่
ไม่งั่นคงไม่ต้องกลัวซะเหงื่อตก
น่าจะลดความกลัวไปได้เยอะ แต่แกก็ผ่านได้ โชคดีไป ....:)
prateep HN
n_n
ตอบลบ20ปีที่แล้วถ้าได้อ่านบทความครูสาลี่ก่อนคงไม่ต้องสอบรอบสอง อิอิ^^
ตอบลบสุดยอดเลยครับ มีประโยชน์มาก ขอบคุณมากๆครับ
ตอบลบทักทาย แสดงความคิดเห็นหรือถามคำถามได้ ที่นี่ เลยค่ะ